Tuesday, June 30, 2009

My Child - ลูกของช้านนนนน…

เซ็งๆ เบื่อๆ เหนื่อยหน่ายในหัวจิตหัวใจ มาหลายวันแล้ว เมื่อวานไปหาหมอฟังผลนมกับโม๊ะ ดันไปสาย 15 นาที โดนเลื่อนนัด ไปวันที่ 10 กรกฎาโน่น ที่เราไปรอนานๆ เป็นชั่วโมงไม่เห็นจ่ายค่ารอ หรือลดราคาวะ มีแต่พวกอึงเท่านั้นนะที่เวลามีค่า…ไอ้พวกหมอทั้งหลาย ก็ลุ้นกันต่อว่าจะได้ฟังข่าวดีหรือข่าวร้าย แต่ผลนมน่ะทางโรงบาลส่งมาให้แล้วว่า “ปกติ” นมยานสวย บีบได้แบนแต๋ง่ายดี 555

page-422

ลืมไปจะมาเล่าเรื่องเมื่อวานที่ไปนั่งรอหมอ ไอ้ก๊อตตี้ก็ดื้อด้านตามปกติ ส่งเสียงดัง วิ่งวุ่นวายไปหมด ไล่จับจนเหนื่อยเกิดไอเดีย เอาปากกากับกระดาษให้มันขีดๆ เขี่ยๆ เล่น มันก็สงบเงียบ น่ารักน่าเอ็นดูขึ้นมาเลยลูกช้านนนน… สักพัก อีเจ้าหน้าที่ทำหน้าดุส่งเสียงมาบอกว่า pens or markers are not allowed in this office … แม่ม….ลมออกหูเลย กรูไม่ยักกะเห็นมรึงมี sign ตรงไหนบอกห้าม เอาวะ กรูเกลียดมืงละกัน อีฟาย 555 ด่าเค้าในใจก็พอทุเลาดีกรีความโกรธได้บ้าง แล้วก็เก็บปากกาสมุดโน๊ตใส่กระเป๋าอย่างว่าง่าย พร้อมกับบอก ซอรี่ แม่ม (มืงงง) 

IMG_4673-w

ตานี้ไอ้ก๊อตตี้ก็เกิดอาการคลุ้มคลั่งอย่างแรงขึ้นมาอีก เปล่งวาจาผรุสวาทกึกก้องกัมปนาทออกไปว่า “ฟักคํ” ด้วยเสียง K - เอนด์ซาวนด์ ชัดเจน คิดกันเอาเองว่ากี่ลูกกะตาในคลีนิคที่ไม่จ้องมองมาที่อิชั้นและลูก “0” ศูนย์ค่ะ zero-สูญ ถึงติดลบเลยแหละ แม้แต่ลูกเด็กเล็กแดงที่จ้องมองมา มันอ้าปากหวอ จอว์ดร๊อพ กันเป็นแถว อายแบบอยากแซกแผ่นดิน ทันใดอีเจ้าหน้าที่อีกคนก็เรียกขานนามอันไพเราะของอิชั้นขึ้นมา ก็เลยรีบวิ่งแจ้นไปหาเธอ แล้วเธอก็บอกว่าขอเลื่อนนัด เพราะคุณหมอโดนเรียกตัวไปผ่าตัดด่วน อิชั้นไม่มีอิดออด หรือ ต่อล้อต่อเถียง คว้าไปนัด คว้าลูกๆ วิ่งหนีขึ้นรถ ออกรถปรื้ดดดด… หายวับไปในแสงแดด “ปิ๋ง”

11-8-2008-3-52-52-PM

ไม่สามารถแก้ตัวหรืออธิบายในที่เกิดเหตุได้ มาอธิบายตรงนี้ดีกว่า ไอ้ลูกบ้านี่ก้อนะ… ก่อเรื่องจนได้ ไม่รู้จะด่าอะไรมัน 2 ขวบ 8-9 เดือน เพิ่งจะพูดได้ไม่กี่คำ ไอ้ที่ชัดๆ ด้วยเสียงและความหมายก็นับได้ไม่กี่คำ แต่ไอ้ที่ชัดเจนฉะฉานและไม่ต้องการให้มันพูดเนี่ยก็ก่อปัญหาจนได้ คำว่า “ฟัก” ของไอ้ตัวแสบมีที่มาจากพ่อ “สัง-ลัง-ม่าย-ลี” ของมัน ชอบพูดคำ curse คำ ขอร้อง ด่าว่า ห้ามปาม ทะเลาะกัน กี่ร้อยครั้งมันก็เลิกไม่ได้ บอกห้ามพูดคำพวกนั้นต่อหน้าลูกๆ เลิกได้ก็เลิกซะ มันบอกมันพูดแบบนี้มาตั้งแต่เกิด แล้วรอมมี่ก็ได้ยินได้ฟังพ่อมันพูดแบบนี้มาตลอดชีวิตของอีรอม ไม่เห็นอีรอมมันพูดคำหยาบซักที เอากะมันสิ ไอ้กันแก่ๆ นี่สอนยากวุ๊ย ต่อๆๆๆๆ เดี๋ยวจะกลายเป็นเรื่องด่าทอผัวให้ชาวโลกฟัง ตอนจีบกันน่ะไม่ได้ยินซัก “F” เลย แต่ตอนนี้อิชั้นน่ะปั๊ดตะนาไปสูสีกะผัวแล้วหล่ะค่ะ

PhotoFunia_42e17a

กลับไปที่ไร่ฟักแฟงของไอ้ตี้ อิชั้นก็ไม่เข้าใจว่าเวลามันพูดคำนั้นออกมามันอยากสื่อความหมายว่าอย่างไร มันก็ไม่ได้พูดบ่อยๆ หรอก บางทีมันพูดเวลามันโมโห บางทีมันพูดเวลามันแฮ้ปปี้ หลังๆ มามันเรียกปืนของเล่นมันว่าฟัก เวลามันหาปืนมันไม่เจอมันจะพูดว่า มายฟัก มายฟัก อิแม่มันก็พยายามเบี่ยงเบนฟามหมายและ rhyme ตาหลอด อย่างเช่น duck, bug, hug, mug, luck, snug สารพัด..แล้วแต่จะนึกออกแหละ พอมันหาปืนฟักของมัน อิแม่ก็จะพูด your gun… This is your gun, this thing calls GUN! ย้ำซ้ำอยู่นั่น แต่ไม่เคยได้ผล นึกเสมอเลยว่ามันจะต้องไปพูดนอกบ้าน-แล้วมันก็พูดจริงๆ ตามคาดหมาย พยายาม fix เรื่องนี้เพราะรู้ว่าถ้ามันไปพรีสคูลแล้วยังเอาฟักแฟงติดไปโรงเรียนด้วย มันโดนไล่ออกแน่ แถมอิแม่มันต้องขายคี่หน้าไปชั่วชีวิต เฮ้อ…. เหนื่อยใจ

IMG_0577-w เอ้า อ่านกันขำๆ

A low-life or lowlife is a term for a person who is considered unacceptable by their community in general. Examples of people who are often called "lowlives" are skells, prostitutes, drug addicts, drug dealers, alcoholics, hustlers, pimps, slumlords, criminals and corrupt officials or authority figures. It may be used in a more general sense to describe anyone not "living the high-life", such as persons with low incomes or who live in poor conditions (or anyone else perceived as "lazy" by the middle and upper class), but such usage is commonly seen as an indicator of classist elitism and unfounded prejudice. Often, the term is used as an indication of disapproval of antisocial or self-destructive behaviors, usually bearing a connotation of contempt and derision.

Thanks > > http://en.wikipedia.org/wiki/Low-life

11-26-2007 4-04-47-s

ส่วนน้ำตาลในเลือดวันนี้ เลขที่ออก …. 80 ถือว่าอยู่ที่ bottom line ของ "ปกติ" ค่ะ รีบไปดวดเป๊บซี่ด่วน 1 ป๋อง 5555 อ้วนต่อไป

 

All the Best Everyone .!!!

SpoiledRotten

Sunday, June 28, 2009

มันอะไรกันจ๊าาาา…

อพยพข้ามมหาสมุทรมาอยู่ทุ่งกุลาเมืองฝรั่งเสียนาน ด้วยสภาพเศรษฐกิจของครอบครัวพังมาได้พักใหญ่ๆ แล้ว ก็เลยไม่ได้กลับไปเยี่ยมบ้านเกิดเมืองนอนหลายปีแล้ว แต่ก็พยายาม catch up ตลอดว่ามีอะไรเกิดขึ้นที่เมืองไทยบ้าง เปิดเว๊บดูโน่นนี่ ไปเรื่อยเปื่อย นอกเหนือไปจาากความไม่สงบเกี่ยวเนื่องมาจากการเมืองและความขัดแย้งทั้งหลายแล้ว ที่ทรมานร้าวรานใจและคิดถึงที่สุดนอกเหนือไปจากครอบครัวที่รักแล้ว ก็คือ อาหารไทย (แท้ๆ ที่เมืองไทยเท่านั้น) ไม่ต้องแฟนซีอะไรหรอก อิชั้นน่ะรับทานได้โม้ดดด…. ตั้งแต่ข้าวเหนียวหมูปิ้งยันตับห่านใจโหด - Foie Gras ราคาทองคำ อาหารไทยที่คิดถึงน่ะ นับตั้งแต่รถเข็นผ่านหน้าบ้าน ร้านปากซอย ตลาดโต้รุ่ง….ภัตตาคาร เหลา..ไปจนถึงร้านดัง โรงแรมหรู ไม่ว่าจะเป็น โรตี ปาท่องโก๋ ขนมครก ก๋วยเตี๋ยว ข้าวผัด แค่ดูรูปก็นั่งน้ำลายยืดดดดดด…….. เก็บเอาไปนอนฝัน (ฝันร้าย-ฝันหลอน เลยแหละ) แล้วพ่อคุณแม่คุณเจ้าพระคุณรุนช่องเด็กรุ่นใหม่นี่มันถ่ายรูปกันเด็ดดวงซะจนอยากจะเอามือหยิบออกมากินซะให้สิ้นเรื่องสิ้นราว  รูปที่เอามาแปะเป็นของใครก็อย่าได้โกรธกันนะคะ ขออนุญาตและขอขอบคุณมา ณ ที่นี้เลย เพราะพอเห็นรูป น้ำลายยืด ก็เซฟไว้ เพราะหิวโหยเลยไม่ได้เซฟที่มา ขออภัยด้วยนะคะ

FoodPage-01

คนอ้วนก็ต้องเบิกโรงด้วยเรื่องอาหารเสมอ 555 ตานี้ก็มาถึง เรื่องสวยงาม เสื้อผ้า หน้า ผม เปิดไปที่ไหนๆ อ่านเว๊บใดๆ อะไรๆ ก็ เกาหลี เกาหลี มันอะไรกันฟระ เมื่อก่อนก็ต้องลูกครึ่งฝรั่ง ต่อมาก็หน้าหมวย ต้อง ขาว สวย หมวย อึ๋ม  เท่านั้น ผิวพม่า นัยตาแขก ตาโต ผิวสีน้ำผึ้ง หรือ สวยแบบไทยๆ ไม่เป็นที่ยอมรับในเมืองไทยนี่มันชักยังไงๆ อยู่ “เกาหลีลุ๊ค” นี่มันไม่ exotic เลยแหละ แถมเด็กสาวๆ รุ่นใหม่ ล้วนเกาะติดเทรนด์อย่างเหนียวแน่น ตอนที่ฮิตผมตรงเป๊ะแบบ pin-straight ก็ไปยืดผมยาวเหยียดตรงเป๊ะกันทั้งบ้านทั้งเมือง (ธุรกิจใหม่เกิด ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ developed 555) อันนั้นไม่เท่าไหร่ อ่านเจอว่าฮิตใส่รองเท้าบู้ทกัน คงเพราะเห็นบรรดา starlet จากฮอลลิวู้ดใส่-ก็ซื้อหามาใส่กันบ้าง ….เห็น (รูป) แล้วก็ อูยยยย…. ร้อนแทน เมืองไทยมันร้อนชื้น เหงื่อสาดกันเกือบตลอดเวลา จะ “ติงเม๋ง” กันทั่วหน้าหรือป่าวน้อ…. 5555

page-001

อิชั้นอยู่ห่างจากฮอลลิวู้ดไม่เท่าไหร่ ได้เห็นเด็กสาวๆ แถวนี้ก็แต่งตัวให้หญิงใหญ่อย่างอิชั้นปวดตาปวดใจอยู่บ่อยๆ ตอนนี้ร้อนตับแล่บ 100 ฝ่าๆ นวลนางก็ใส่เสื้อกล้าม เสื้อสายเดี่ยว กับกุงเกงสั้นจู๋ Micro Short Shorts ทีกะลังฮ๊อตฮิตอย่างแรง (ไอ้ท่อนบนใส่อะไรก็ใส่ไปเถอะ-ไม่ก่อกวนหัวใจและสายตาอิชั้นหรอก) บางนางก็ดูดี ขาเรียวยาว ผุดผ่อง แหม..มันช่างน่ามอง แต่บางนาง..เห็นแล้วก็แบบ… โถ…อีหนูเอ้ยย… ขาที่อวบกว่าขาโต๊ะสนุ๊กน่ะไม่เท่าไหร่ แต่ที่บ้านคงไม่มีคนรัก-คนห่วง เพื่อนๆ ก็ไม่จริงใจ กันเลยหรือไร เธออ้วนอวบแล้วใส่กางเกงจุ๊ดจู๋ พอเดินไปมาไม่เท่าไหร่ ขากุงเกงที่สั้นกุดนั่นก็ร่นหุบหายเข้าไปในหลืบขา (เรียกอะไรวะ หว่างขา ขาหนีบ 555) บางคนก็หุบหายไปทั้ง 2 ขา บางคนก็หุบหายขึ้นไปแค่ขาเดียว แล้วเบ้ากางเกงมันถูกดึงรั้งเข้าไปก็พองโป่งโดงบวมโดดเด่นขึ้นมา มันไม่งามเลย โถๆๆๆๆ เพื่อนฝูงพ่อแม่พี่น้องไม่มีใครบอกใครเตือนเลยเน๊าะ หนูๆ สาวไทย ไม่รู้เป็นกันหรือป่าว คิดว่าน่าจะ “ไม่” เพราะสาวไทยส่วนใหญ่ไม่อวบอ้วน มีแต่แบนบางเอวกิ่วเล็กกว่าต้นแขนอิชั้น ไม่งั้นจะมีเสื้อผ้าไซ้ส์ 5XS หรือ XXXXXS หรือว่ามีเล็กกว่านั้นอีกก็ไม่รู้ 5555 พูดแล้วก็แปลกนะ เวลาเห็นคนใส่ชุดว่ายน้ำ บิกินี่ โชว์เนื้อหนังมังสา กลับเฉยๆ สวยงามมากน้อยแต่กต่างกันไป แต่พอแต่งตัวไม่เรียบร้อยกลับดู not nice อธิบายยากจัง เป็นเรื่องของ “กาละและเทศะ” มั๊ง

page-003

หลังๆ มา ก็ได้ข่าวเรื่อง ฮิตทีวีซีรีส์เกาหลีกันอย่างรุนแรง อยากดูวุ๊ย เห็นติดกันงอมแงม แต่ไม่กล้าเริ่มเพราะเดี๋ยวติดหนักแล้วต้องไปเลิกที่ถ้ำกระบอก 555 จากนั้นมาก็ เสื้อผ้า เครื่องสำอาง ข้าวของใช้ทั้งหลาย ต้องจากเกาหลีเช่นกัน อ่านฟังกระแสความแรงของเกาหลีแล้วก็ใจมันร้อน  ใจมันรน อยากได้อยากซื้อหามาใช้บ้าง แต่อิชั้นอยู่ในโซนของโลกที่เค้าไม่นิยมอะไรๆ เกาหลีเลย ซื้อหาอะไรไม่ได้เลย เริ่มจาก บีบีครีม ยอดฮิต โหยหาโวยวายอยู่นาน จนคุณเพื่อนๆ จากเมืองไทย โยนข้ามทวีปส่งมาให้ได้ใช้ ยังมีอีกเยอะมากมายหลายไอเท่มที่โวยวายไล่กวดให้เพื่อนๆ เดือดร้อนเขวี้ยงใส่เรือบินมาให้ แต่ไอ้ที่พอได้รู้ได้ยินได้เห็นแล้วก็ งงๆ ก็เกาหลีลุ๊ค ผู้ชายก็ซอยผมทรงหนูแทะทิ่มหูทิ่มตา รากไทรรุงรัง ขนาดดารา-นักร้องหน้าตาดีๆ บางคนทำแล้วก็เสียหล่อ บางคนก็แค่โอเค ไม่กี่คนที่ทำแล้วดูน่ารัก พอหนุ่มๆ ถึกๆ เดินถนนไปก๊อปลุ๊คเกาหลีมาบ้าง เห็นแล้วก็ โอ้ มาย บุ๊ดด้า ช่างกล้านะลูก 555 ส่วนสาวๆ ก็ต้องใส่เลนส์ตาโตๆ แต่งหน้าให้ดูหน้าเผือดๆ ซีดๆ แล้วทำปากจู๋ๆ เด็กสาวๆ ถ่ายรูปแล้วโพสต์ท่าเดียวกันโม้ด… เห็นแล้วขำง่ะ บางคนก็ทำน่ารัก ก๊อปเค้าได้อย่างน่าดู แต่บางคนเห็นแล้วก็ กร๊ากกก… ฮานาก้า อยู่คนเดียว ทีแรกก็นึกว่า เราคงบ้า…เห็นเป็นขำอยู่คนเดียว ที่ไหนได้ อ่านไปเรื่อยเปื่อย มีคนที่ไม่ชอบเทรนด์เกาหลีเยอะแฮะ บางคนก็โพสต์ ด่า ต่อต้าน ซะรุนแรง แต่ที่ขำกลิ้งก็ที่บางคน เปรียบเทียบสาวๆ ตาโตๆ ปากจู๋ๆ กับสิงสาราสัตว์ 555 อย่าง ดูดิ อันนี้ก็เทรนด์เกาหลี ตาโตๆ ปากเล็กๆ จู๋ๆ แล้วก็โพสต์ รูปตุ๊กแก รูปนางอาย รูปกบ รูปปลาทอง-ปลาทู ขำก๊ากมากมาย 5555 ช่างเปรียบนะพ่อคู้นนนน…. (ไม่กล้าแปะรูปคุณตุ๊กเค้า-เพราะเกลียดกลัวคุณตุ๊กมากกกกก…ค่ะ)

page-002

จบดีกว่า ไม่มีสาระ มาบ่นตามประสาคนแก่ๆ อ้วนๆ ที่ตามกระแสไม่ทัน 555

Have A Nice Weekend Everyone !.!.!

Tuesday, June 23, 2009

My Daily Skincare Regimen

Pictures tell all… no explanation needed.. Ha Ha

Morning

SkinCarePage-01

Before Bed

SkinCarePage-02

Thanks for stopping by ….

Have a nice day everyone !!

Thursday, June 18, 2009

Water Intoxication

วันนี้ต้องไปทำ Mammography & Pelvic Sonography หรือ ultrasound นั่นเอง ก็สืบเนื่องมาจากเช็คอัพประจำปี การทำนัดบ้านนี้เมืองนี้มันยุ่งยากและรอนาน (รู้ๆ กันอยู่) บางทีรอนานๆ เข้า ก็งงว่ากรูจะไปหาหมอทำไมฟระ เพราะได้หายป่วยหายไข้ไปนานแล้ว แต่อันนี้ต้องไปทำแมมโมแกรมเพราะไม่ได้เอานมไปเข้าเครื่องรีดตั้งแต่ก่อนท้อง ตอนนี้ไอ้ตี้ 2 ขวบ 8 เดือนแล้ว 555 do the math กันเอาเอง พอไปตรวจประจำปีตอนท้องก็ห้ามทำแมมโมแกรม พอตอนให้นมก็ห้าม พอไปอีกปีไอ้ฟายน้อยตี้ก็ยังไม่หย่านม แหม..ถ้าตรวจตอนให้นมลูกอยู่ นมเป่งๆ คงจะกระฉูดเต็มเครื่องเค้า 555

เข้าเรื่อง เข้าเรื่อง เริ่มด้วยตื่นแต่เช้า (7 โมง…เช้าโคตรๆ สำหรับบ้านผีปอบ 555) กินน้ำ 32 ออนซ์ ตามที่ใบสั่งแพทย์ส่งมา ไปถึงโรงบาลก็ลงทะเบียน รอๆๆๆๆ คนมาทีหลังทะยอยกันเข้าห้องตรวจ ห้องเจาะ ห้องส่อง (x-ray) ตัดหน้าอิชั้นที่นั่งอ้วนรออยู่อย่างอดทน 4-5 คนได้ ชักฉุน เลยเดินไปถามอีนังเจ้าหน้าที่ เค้าบอกว่าอิชั้นมี 2 ตรวจ เลยจะให้เข้าไปปุ๊บ ส่งต่อกันได้เลย ทันใด เจ้าหน้าที่ อุลตร้าแมนสาวสวยก็มาเรียกให้อิชั้นเข้าโซนห้องส่อง ไม่ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า เธอบอกแค่ร่นกุงเกงลงก็พอเพราะหมอสั่งมาให้ส่องดูบริเวณอุ้งเชิงกราน พอเริ่มลงเจล เอาหัว probe ถูๆ กดๆ เธอก็บ่นว่าอิชั้นดื่มน้ำตามสั่งหรือป่าว ทำไม bladder ไม่เต็ม (ถ้ากระเพาะปัสสาวะเต็มใหญ่โต มันก็จะดันให้พวงอวัยวะหญิงลอยหน้าโดดเด่นขึ้นมา ง่ายต่อการรับชมรับฟังโดยการตรวจด้วยคลื่น…คำอธิบายโดยหมออู๋ 5555) ก็สั่งให้ออกไปตรวจนมซะก่อนและแด๊กน้ำอีก 1 ลิตร ที่กินมาก่อนมันจะรออยู่ในกระเพาะฉี่ได้ไงให้นั่งรอตั้งนาน หนีไปปลดปล่อยซะรอบนึงแล้ว นี่ขนาดพกขวดน้ำไปดวดตลอดเวลา

เค้าก็พาไปห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า บอกให้ปลดแต่ท่อนบน แล้วก็ไปนั่งรอด้วยเสื้อโรงบาลรุ่งริ่งหาที่ผูกที่ติดกันอุจาดได้ยากจริง ก็กุมๆ กำๆ ไว้นั่นแหละ ผู้คนก็เดินผ่านไปมาไม่ได้หยุด กรูล่ะเซ็ง ….. พอครู่ใหญ่ๆ ป้าๆ คนนึงพูดเพราะ ดูใจเย็น มาบอกว่าไปตรวจได้แล้ว ก็คุณป้านั่นแหละเป็นเทคนิเชี่ยนเครื่องแมมโมแกรม หน้าตาใจดี พูดเพราะ การตรวจเป็นไปอย่างเรียบร้อย รวดเร็ว เจ็บ ship หาย นมกำลังระบมเพราะใกล้จะมี ปจด. ง่ะ เจ็บๆๆๆๆ แต่ก็จบเสร็จไปเรื่องนึง คุณป้าคนสวยก็พาอิชั้นมาส่งคืนให้กับน้องเม๊กซิกันคนงาม วันนี้โชคดีแฮะเจอแต่คนสวยๆ ใจงาม ไม่เจอ ฮิปโป หมีฟาย ใดๆ เลย 5555 เค้าคงไม่อยากให้ฮิปโปมาเอ๊กแซมฮิปโปมัง 555 

Attempt # 2 เธอก็ให้อิชั้นร่นกุงเกงลงอีก หาผ้าคลุม ลงเจล เอาหัวตรวจมากดๆ จ่อๆ เธอก็จ๊ากขึ้นมาอีกว่าฉี่ยังไม่เต็มถัง แถมโชว์ว่า ดูดิ ฉี่กะลังไหลลงถังเลย แต่ยังตรวจไม่ได้ อัญเชิญให้ทดออกมารอหน้าห้อง แถมบอกให้กินน้ำอีก ครึ่งลิตร ก็กะเดือกลงไปได้อีกหน่อยนึง แล้วก็เป็น waiting game รอๆๆๆๆ ต้องเดินไปมา เพราะนั่งแล้วมันจะล้น ทั้งเรอ ทั้งปวดฉี่ ทั้งอยากจะอ้วก ฯลฯ ทรมานมากๆ รอๆๆๆ เธอก็ไม่มา สุดท้ายเธอก็มา Attempt # 3 ตรวจได้ เห็นชัด เธอว่างั้น เธอวกวนดูอยู่จุดไหนจุดหนึ่งมองไม่เป็นแต่รู้สึกได้ แล้วก็หมั่นชี้ๆ บนจอให้ผู้ช่วยเธอดู แล้วก็พยักหน้าหงึกๆ หงักๆ ไม่พูดอะไรออกมาให้อิชั้นได้ยิน ใจชักฝ่อ แล้วเธอก็บอกว่า ไปฉี่ได้แล้ว แต่ขออนุญาตตรวจจากด้านในนะ เพราะอยากเห็นบางจุดให้ชัดเจน อ้าว หมอประจำองค์อิชั้นไม่ได้สั่งนี่หว่า หรือมันตรวจเจอเอเลียนแอบอยู่วะ แงๆๆๆ พอไปฉี่กลับมา เธอก็ให้ถอดท่อนล่างออกหมด เอาผ้าคลุม เอา probe แท่งเรียวๆ มิใช่ dong ใหญ่ยักษ์ 555 เธอตรวจอยู่นาน อิชั้นรู้สึกจะตาย ทั้ง emotional & physical เลย แล้วเธอก็บอกเสร็จแล้ว แต่งตัวกลับบ้านได้ หมอโม๊ะของอิชั้นจะได้รับผลใน 3 วัน จริงๆ หมอโม๊ะ OB/GYN ของอิชั้นส่งใบนัดมาให้นานแล้วแหละ ว่าไปฟังผลที่ตรวจทั้งหมดวันนี้ได้ในวันที่ 29 เฮ้อ… ลุ้นอีกแระ…

พอเดินออกมาจากห้องตรวจ รู้สึก หวิวๆ lightheaded แวะฉี่อีกรอบ เดินไปเอารถ ขับรถกลับบ้านด้วยอาการปวดหัวแบบหัวจะระเบิด ล่องลอยน่าก่ออุบัติเหตุ ถึงบ้านกินไทลิน่อลไป 2 เม็ด กะว่าจะนอนซะหน่อย พอดีลูกๆ ตื่น เลยให้อีพ่อมันดูแลอาหารเช้าลูกก่อนออกไปทำงาน อิชั้นสลบเหมือด พักนึงแล้วก็หลับๆ ตื่นๆ ปวดหัวอย่างแรงมากๆ แต่หิวมากเพราะยังไม่ได้กินอะไรเลย พอกินข้าวลงไป อยากอ้วก ปวดหัวแบบมึนๆ ไม่หายทั้งวัน เลยนึกขึ้นได้ว่าเป็น Water-Overdose!  Did I just overdose on water? OD on water ฟังดูขำๆ โง่ๆ แต่มันมีจริงๆ นะ ปริมาณที่กระเดือกเข้าไปไม่เท่าไหร่หรอก แต่ช่วงเวลานั่นแหละที่เป็นตัวการ อิชั้น “ดวด” น้ำ เข้าไป 2 ลิตร ในเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง

Water intoxication (also known as 'hyper-hydration' or water poisoning) is a potentially fatal disturbance in brain functions that results when the normal balance of  electrolytes in the body is pushed outside of safe limits by over-consumption of water. Normal, healthy (both physically and nutritionally) individuals have little to worry about accidentally consuming too much water. Nearly all deaths related to water intoxication in normal individuals have resulted either from water drinking contests, in which individuals attempt to consume more than 10 liters (2.2 imp gal; 2.6 U.S. gal) of water over the course of just a few minutes, or long bouts of intensive exercise during which electrolytes are not properly replenished, yet massive amounts of fluid are still consumed.

Thanks > > http://en.wikipedia.org/wiki/Water_intoxication

 

 

 

Tuesday, June 09, 2009

Rommy & the TUTU…..

ในที่สุดรอมมี่ก็ได้ “ทู้ทู่” ที่คร่ำครวญกวน “ตรีน” อยู่นาน ดูกันเอาเอง ว่ามันเอ็นจอย tutu ที่อยากได้ขนาดไหน ใส่เต้นระบำรำฟ้อนอยู่ในบ้าน ใส่ไปซื้อกับข้าวกับแม่ มันไม่อาย 55555 แต่อิแม่มันอาย 5555

page-419

ไม่มีอะไรจะเล่า เพราะเหนื่อยๆ เซ็งๆ อยู่หน่อยๆ มาดูสารพัดยาที่ทดต้องแด๊กกันดีก่า เยอะแยะตาแป๊ะก่ายจริงๆ ทุกอย่างหมอสั่งให้แด๊กทั้งน้าน หมออู๋มิได้ซี้ซั้วจัดหามากินเองหรอก เป็นที่รู้ๆ กันว่าไม่ชอบกินยา

Bayer Aspirin Baby Dose 81 mg. แด๊ก วันละ 1 มะเล็ด เพื่อ thin เลือด ช่วยลดอัตราการเสี่ยงโรคหัวใจ อันนี้หมอเขียนใบสั่งให้ แต่ไม่ได้ไปซื้อ เพราะมีอยู่แล้วที่บ้าน

Veramist เอาไว้พ่นจมูก รูละ 2 ปื้ด ทุกเช้า แก้ภูมิแพ้ ซื้อหาเอาเองไม่ได้ ต้องใช้ใบสั่งแพร่ดจ้า

Zolpidem 10 mg. เป็น generic ของ Ambien® คือ ยานอนหลับนั่นเอง รักษาอาการ Insomnia นอนหลับกระสับกระส่าย ตื่น (แม่ง) ทั้งคืนอย่างยิ๋งทด หมอสั่งให้กินก่อนนอนคืนละ 1 เม็ด

Claritin เป็นยาแก้ภูมิแพ้ที่ซื้อเองไม่่ต้องใช้ใบสั่งยา เดิมกิน Zyrtec ที่หมอสั่งให้มาหลายปีแล้ว แต่ไม่ชอบ เพราะทำให้ง่วงตลอดวัน (ขี้เกียจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ต้อง “สลึ๋มกึ๋ม” ทั้งวันอีก เข้าล๊อคเลย นอนทั้งวัน แต่พอมีลูกต้องดูแล ไล่ตี นอนทั้งวันไม่ได้ค่ะคุณๆ) ไอ้ยาทั้ง 2 ตัว เดิมซื้อ over the counter เองไม่ได้ ต้องมีใบสั่ง เพิ่งเมื่อกลางปีที่แล้วมั๊ง ที่ FDA อนุญาตให้ยาทั้ง 2 ยี่ห้อวางขายได้ตามเค้าน์เต้อร์ ไอ้พวกบริษัทประกันสุขภาพก็สบายไปเลย ไอ้ Claritin เนี่ย หมอสั่งให้กินก่อนนอนวันละ 1 เม็ด

Vicodin 5 – 500 mg. (Vicodin® (hydrocodone/APAP) is a prescription medication approved to treat moderate to moderately severe pain. It is a narcotic and is classified as a controlled substance, which means that special laws and regulations control its sale and use.) อันนี้เก๋จ้า ใบสั่งจะกี๊บเก๋กว่าอย่างอื่น ห้ามเขียนรวมกับยาอย่างอื่น เพราะเป็นยาเสพติด มันเป็น “ฝิ่น” หรือไงนี่แหละ หมออู๋ไม่แน่ใจ เป็น 1 ใน popular pain killers เลยแหละ จำได้แม่นว่าได้เสพครั้งแรกตอนผ่าตรูด 2 มะเล็ด ทุกๆ 6 ชั่วโมง อิชั้นเซิ้งออกมาจากโรงบาลหลังจากฟื้นยาสลบได้ 2 ชั่วโมง ไปแด๊กอาหารไทย กลับบ้านคี่ปรู้ด…สะดวกตูด มิมีซี๊ดซ๊าด พอข้อมือเจ็บหมอก็จ่ายให้อีก พอผ่าคลอดได้มาอีกฝูงใหญ่ หมอให้กินทีละ 2 เม็ดทุกๆ 4 ชั่วโมง สลับกับ Valium 1 เม็ด ทุกๆ 6 ชั่วโมง อิชั้นเหมือนลอยอยู่ใน Twilight Zone ไม่มีอาการเจ็บปวด ทั้งๆ ที่เพิ่งถูกหมอเถือกลางลำตัวขาด 2 ท่อน ควักลูกออกมา สุดท้ายหมอ OB/GYN ประจำองค์สั่งให้พกไว้แด๊กเวลาปวดท้องนรกที่เป็นมาตลอดชีวิต ชะงัดนัก ครั้งละ 2 เม็ดเวลาปวด ไม่ปวดก็ไม่กินจ้า ยังไม่ติด เพราะยังไม่ได้เป็นอเมริกันชนโดยแท้ 555 คนชาตินี้…แม่ม..เสพ prescription drugs กันเป็นว่าเล่น ติดกันงอมแงม ผลพวงของ healthcare business โดยแท้

Metformin 500 mg. อันนี้เป็นยาที่เริ่มกินตั้งแต่ตอนท้อง เพราะควบคุมน้ำตาลในเลือดไม่ได้ พุ่งปรู้ดถึง 236 ด่วนดิ่งนรกชัดๆ ตอนท้องให้กินครั้งละ 1 เม็ด เช้า-เย็น แต่ตอนนี้ให้ลดลงมากินครั้งละครึ่งเม็ด เช้า-เย็น เหมือนเดิม น้ำตาลตอนนี้ก็ไม่ค่อยดีนัก แต่หมอบอกว่าโอเค ประมาณ 100-120 ไม่รู้ว่าต้องกินยาบ้านี่ไปจนตายหรือป่าว

Enalapril 2.5 mg. อันนี้เป็นยาน้องใหม่รักษาฟามดันทุรังสูงของอิชั้น ต้องรับทานก่อนนอนวันละ 1 เม็ด ดูกันต่อไปว่าจะเลิกดันทุรังสูงหรือไม่ เมื่อไหร่ อย่างไร

Ferrous Sulfate 325 mg. ไอ้ธาตุเหล็กนี่กินมาเนิ่นนานแล้วก็ไม่เห็นให้เลิก กินตั้งแต่ท้อง สุดท้ายเช็คอัพเดือนก่อนเลือดก็ยังไม่ดี ยังเป็นโลหิตจาง Anemic อยู่ เบื่อๆ กินยาบ้านี่มากๆ ไอ้ยาบ้านี่กินยากด้วยสิ เม็ดเล็กๆ ก็เถอะ กระเพาะว่างก็อ้วก กินช่วงใกล้ๆ กับอาหารนมก็ไม่ได้ แคลเซี่ยมไปบล๊อกการดูดซึม ก่อนนอนก็ชอบแด๊กไอติมซะด้วย ก็คงต้องฝืนกินไปเรื่อยๆ จนกว่าผลเลือดจะดีหรือหมอสั่งให้เลิกมั๊ง ที่กินก็คือก่อนนอนวันละ 1 เม็ด

Hydroxyzine Pamoate 25 mg. (Hydroxyzine is used for the short-term treatment of nervousness and tension that may occur with certain mental/mood disorders (e.g., anxiety, dementia). It is also used to treat itching from allergies and other causes (e.g., reactions to certain drugs). It may also be used to help you feel calmer before/after surgery, or to help certain narcotic pain relievers (e.g., meperidine) work better.) อันนี้แด๊กก่อนนอนวันละ 1 มะเล็ด ช่วยเรื่องนอนยาก และ Allergy ก็กินสลับกับไอ้ Zolpidem ในช่วงที่ Allergy ค่อนข้างสงบ 

MedicinesPage-04

ไอ้พวกข้างล่างคือวิตามินที่กินทุกวัน ไม่กินยาไม่กินวิตามินก็โดนผัวด่า มันกลัวเมียตาย ยิ่งไปอ่านข่าวว่าสาวใหญ่อายุแก่กว่าแค่อิชั้น 1 เดือน เพิ่งตายห่าลง เป็นมะเร็งมะเส็ง หรืออะไรก็ไม่แซบ มันยิ่งเครียด ไล่ไปหาหมออยู่นั่น คนบ้านนี้แค่ “ตด” ก็ไปหาหมอ 555 ตามที่ใครๆ เค้าว่ากันจริงๆ น้าาาา……

Monday, June 08, 2009

The Mom Song

Momsense:

Words by Anita Renfroe Copyright 2007 Bluebonnet Hills Music/BMI

Get up now
Get up now
Get up out of bed
Wash your face
Brush your teeth
Comb your sleepy head
Here's your clothes
And your shoes
Hear the words I said
Get up now
Get up and make your bed

Are you hot?
Are you cold?
Are you wearing that?
Where's your books and your lunch and your homework at?
Grab your coat and your gloves and your scarf and hat
Don't forget you got to feed the cat
Eat your breakfast
The experts tell us it's the most important meal of all
Take your vitamins so you will grow up one day to be big and tall
Please remember the orthodontist will be seeing you at three today?
Don't forget your piano lesson is this afternoon

So you must play
Don't shovel
Chew slowly
But hurry
The bus is here
Be careful
Come back here
Did you wash behind your ears?
Play outside
Don't play rough
Would you just play fair?
Be polite
Make a friend
Don't forget to share
Work it out
Wait your turn
Never take a dare
Get along
Don't make me come down there
Clean your room
Fold your clothes
Put your stuff away
Make your bed
Do it now
Do we have all day?
Were you born in a barn?
Would you like some hay
Can you even hear a word I say?
Answer the phone
Get Off the phone
Don't sit so close
Turn it down
No texting at the table
No more computer time tonight
Your iPod's my iPod if you don't listen up

Where you going and with whom and what time do you think you're coming home?
Saying thank you, please, excuse me
Makes you welcome everywhere you roam
You'll appreciate my wisdom
Someday when you're older and you're grown
Can't wait 'til you have a couple little children of your own
You'll thank me for the counsel I gave you so willingly
But right now
I thank you NOT to roll your eyes at me
Close your mouth when you chew
Would appreciate
Take a bite
Maybe two
Of the stuff you hate
Use your fork
Do not you burp
Or I'll set you straight
Eat the food I put upon your plate
Get an A, Get the door
Don't get smart with me
Get a Grip
Get in here I'll count to 3
Get a job
Get a life
Get a PhD
Get a dose of...
I don't care who started it
You're grounded until your 36
Get your story straight
And tell the truth for once for heaven's sake
And if all your friends jumped off a cliff
Would you jump too?

If I've said it once, I've said at least a thousand times before that
You're too old to act this way
It must be your father's DNA
Look at me when I am talking
Stand up straight when you walk
A place for everything
And everything must be in place
Stop crying or I'll give you something real to cry about
Oh!
Brush your teeth
Wash your face
Get your PJs on
Get in bed
Get a hug
Say a prayer with Mom
Don't forget
I love you
**KISS**
And tomorrow we will do this all again because a mom's work never ends
You don't need the reason why
Because
Because
Because
Because
I said so
I said so
I said so
I said so
I'm the Mom
The mom
The mom
The mom
The mom
Ta-da

Words by Anita Renfroe Copyright 2007 Bluebonnet Hills Music/BMI

แต่อิชั้นคิดว่าป้าคนนี้ร้องดีกว่ามากนะคะ

Thursday, June 04, 2009

Hello My Friends

 

ไม่รู้ยังจำ “อูู๋ - ทศพร” กันได้หรือปล่าว ขอแนะนำตัวซะหน่อย เพื่อให้เพื่อนๆ ที่ขาดการติดต่อกันเป็นแรมปี แรมชาติ ได้มาอัพเดทกันนิดนึง ผ่านฝน ผ่านหนาวกันมาหลายสิบปี มีอะไรๆ เกิดขึ้นบ้างกับชีวิตของอู๋บ้าง

page-02

เป็นคนที่เพื่อนในวันนักเรียนเยอะมาก บางทีจำหน้าเพื่อนได้ แต่จำชื่อไม่ได จำกลุ่มเพื่อนสลับกันไปมา เจอเพื่อนคนนึงถามถึงเพื่อนอีกโรงเรียนนึง หวังว่าเพื่อนๆ คงให้อภัย เพราะว่าพ่อรับราชการ จาก อนุบาล จนจบ มศ. 5 ก็ผ่านไปตั้ง 10 โรงเรียน 5 จังหวัด พอเรียนจบ ก็ใช้ชีวิตเป็นพนักงานบริษัทต่างชาติมาตลอด บ้างาน รักและสนุกกับการทำงาน แต่เปลี่ยนงานบ่อย เพราะหน้าเงินและเพื่อความก้าวหน้า มีโอกาสได้เดินทางบ่อยๆ ทำงานจนลืมนึกถึงการมีครอบครัว (แต่มีแฟนมาตลอดนะค้าาาา….ร้ายสเน่หา มิใช่ ไร้สเน่หา 555 on & off มีๆ เลิกๆ ตลอดค่ะ)

page-01

มาเริ่มมีชีวิตคู่และมีลูกคนแรกตอนอายุ 35 เข้าไปแล้ว ตอนนั้นหน้าที่การงานกำลังมาแรง คลื่นลมพายุชิวิตก็แรงไม่แพ้กัน เรือรักเลยล่มในเวลาอันรวดเร็ว ด้วยที่เป็นคนอึดกระบือถึกมากมาย ก็เลยไม่ค่อยสะทกสะท้านอะไร ที่จะต้องเป็น Single Mom แม่เดี่ยวมือหนึ่งเป็นเรื่องไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยากนัก (อาจมีรกใจนิดหน่อยกับสายตาคนรอบข้าง แต่ก็เลยผ่านมาได้ด้วยดีด้วยความรักจากครอบครัว คือ คุณนายแม่และพี่สาว) 

page-290 

ก็ยังบ้าทำงานต่อไป ไม่บ้าจะเอาอะไรเลี้ยงลูกนิ จำได้เลยค่าไดเป้อร์ที่เมืองไทยตอนนั้นแพงมาก เดือนละ 5-6 พันได้ ค่าอื่นๆ อีกมากมายก็แพงไม่แพ้กัน โชคดีว่าที่ไม่ต้องผ่อนบ้านผ่อนรถ แล้วก็เพราะงานอีกนั่นแหละ ก็ได้มาเจอ “รักข้ามขอบฟ้า” คิดอยู่นานกว่าจะตัดสินใจปิดฉากชีวิตการทำงานมาเป็นแม่บ้านในต่างแดน แถมเรือรักลำแรกล่มไม่เป็นท่า คราวนี้กลับมีเรือพ่วงลำจิ๋วด้วย เลยต้องคิดให้หนักหน่อย เรือรักลำนี้เลยมิใช่เรือแจวหรือ Yacht แต่เป็นเรือรบลำใหญ่ แบบ Aircraft Carrier เลย 555 คงล่มยากนิดนึง

page-260

แรกๆ มาอยู่ที่อเมริกาก็ยังทำงานพาร์ทไทม์อยู่ พอมามีลูกคนที่สอง ต้องหยุดกลายเป็นคุณเพิ้งเลี้ยงลูกแบบเต็มเวลา เพราะค่าเดย์แคร์แพงมาก ไม่คุ้มกัน มาอยู่ที่แคลิฟอร์เนียได้ 10 ปีแล้ว บ่อยๆ ที่รู้สึกคิดถึงชีวิตการทำงานและความก้าวหน้าที่ทิ้งมา แต่ที่สิ่งที่แลกมาก็คุ้มค่าไม่น้อย สิ่งนั้นก็คือ “ครอบครัว” เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม ฮิฮิ งานแม่บ้าน เป็นแม่และภรรยา เป็นงานหนักยิ่งกว่างานออฟฟิซเต็มเวลาหลายเท่า เพราะไม่มีวันหยุด แถมอยู่เมืองนอกไม่มีปัญญามีคนรับใช้ด้วย หนักหนามากๆ ขอบอก

page-259

ตั้งแต่ลืมตาดูโลกไม่เคยทำกับข้าวหรือทำงานบ้าน ตอนนี้ต้องทำเองทุกอย่าง ขนาดตอนที่ทำงานก็ยังได้แวะกินกับข้าวสุดยอดของความอร่อยฝีมือของแม่อยู่เสมอ แล้วกรุงเทพฯ ก็มีอาหารอร่อยให้เลือกกินหลายเกรดหลายราคา อยากกินเริ่ดๆ ก็ขับรถไปไกลหน่อย จ่ายแพงอีกนิด พูดแล้วก็คิดถึงอาหารไทย (แท้ๆ) มาตะหงิดๆ (เป็นคนเห็นแก่กินมากมาย อ้วนตุ้บเลยตอนนี้ 555) อยู่ที่นี่ทำกินเอง อร่อยไม่อร่อยก็ต้องทนกินเข้าไป ไม่ได้เลี้ยงหมาซะด้วย 555

page-208

แปะรูปซะหน่อย เผื่อเพื่อนๆ จะได้ดูวิวัฒนาการสัตว์โลก 555 หารูปตอนมัธยมไม่ได้เลย ไว้ได้กลับเมืองไทยคราวหน้าต้องไปขนมาเสียหน่อย วันนี้ขอจบแค่นี้ก่อนนะคะ แล้ววันหลังจะมา “อั๊พ” ต่อ เด้อค่าเด้อ

 page-115   2-1-2008 5-15-10 AM