Wednesday, March 02, 2011

ฤๅข้านี้..คือ..ขุนศึก

จึงต้องออกรบตลอดเวลา (วะ) ระยะเวลาตลอดเดือนเศษๆ ที่ผ่านมา… ต้องเรียกว่า ข้าศึกบุกประชิดประตูเมืองทุกด้านเลยเชียว ศึกเหนือ-เสือใต้รอบตัว ไม่รู้เป็นอะไร เรื่องไม่มาหา ก็ดิ้นรนไปหาเรื่องใส่ตัวเองอยู่ได้ไม่หยุดหย่อน เฮ้อออออออ…… มันต้องมีอะไรมาให้ประลองฝีมือ รบรา อยู่ไม่ขาด ไม่เคยได้อยู่สงบๆ กับใครเค้าเลย

เรื่องแรก คือ ปัญหาที่มีกับ Notebook อันใหม่ คือเมื่อปลายปีก่อน พ่อบ้านเค้าซื้อโน๊ตบุ๊คใหม่เอี่ยมให้อีก 1 เครื่อง เป็นยี่ห้อ Hewlett-Packard รุ่นเบบี้ ไม่ใช่ไฮเอนด์หรือท๊อปออฟเดอะไลน์ แต่อย่างใด ราคาย่อมเยาว์ ขนาด 15.6” ตอนนั้นไม่ได้อยากได้ ไม่ได้บ่น งอแง งี่เง่า ร้องจะเอา… คือ เพื่อนรักชาวลาวของอิชั้น ไปเข้าคิวลากซื้อมา 2 เครื่องเมื่อตอน Black Fridayโน่น พอซื้อมาแล้ว เกิดนึกขึ้นได้ ว่าน่าจะซื้อ desktop จะดีกว่า ก็เลยมาถามขายให้ราคาเท่าที่เค้าจ่ายไป พอมานั่งคิดค่าที่เค้าไปเข้าคิวค่อนคืน เพื่อแย่งซื้อของราคาถูกเป็นพิเศษ แล้วมาขายให้โดยไม่คิดกำรี๊-กำไร มันก็น่าสนเน๊าะ มาถามขายอิชั้นเป็นคนแรก (ว่างั้น) แต่เค้าร้อนเงิน ต้องจ่ายเดี๋ยวนี้ๆ เลย ไม่งั้นจะไปถามขายคนอื่น อิชั้นก็เล่าให้พ่อบ้านฟัง อิตานั่นก็บอกว่าให้โทรไปบอกเค้าว่าจะซื้อเอง อิชั้นก็บอกไม่เอาหรอก เครื่องเก่าก็ยังเอี่ยมอยู่ เพี่ยงแค่ไอ้ตี้แกะแป้นออกไม่กี่อัน เดี๋ยวมีตังค์จะเอาไปซ่อม ก็แจ่มแมวเหมือนเดิม อิพ่อบ้านก็เลยบอกว่า จริงๆ ตั้งใจจะซื้อ iPad ให้ แต่อันนี้ถูกกว่าตั้งเยอะ ($300) เอาไว้ใช้เล่นๆ ไปก่อนละกัน

อิชั้นก็เลยกลายเป็นยอดหญิงที่มีคอมพิวเตอร์ในครอบครองถึง 4 เครื่อง ไม่รวม Handheld อีกอัน 555 ใช้คนเดียวนะคะ 555555… ถ้าลูกหรือสามีจะใช้ต้องขออนุญาต…เพราะอิชั้นใส่พาสเวิร์ดไว้ทุกเครื่อง แต่พ๊าดเหวิดไม่สามารถป้องกันคนมือบอนมาแกะคีบอร์ดได้ค่ะ ที่ต้องทำแบบนั้น.. ไม่ใช่งกนะคะ (พ่อบ้านก็มีพาสเวิร์ดของเค้า ใช้คอมพ์ได้ anytime เมื่อเค้าต้องการ แต่อิตานั่นไม่ค่อยใช้หรอกค่ะ จะมีก็ตอนก่อนไปทำงาน นั่งดื่มกาแฟหน้าคอมพ์หน่อยนึง เลิกงาน นานๆ ครั้ง ที่จะมานั่งหน้าจอ เสียที ก็เลยบอกไปว่า คอมพิวเตอร์ทั้งหมดเป็นของอิชั้น) ต่อๆๆๆๆ พ๊าดเหวิดต้องมีไว้ เพื่อความปลอดภัยของลูกๆ ค่ะ ก็ล๊อคไว้ทุกอย่าง ถ้าจะใช้ก็จะล๊อคอินให้ใช้ account ของเค้าเอง ซึ่งอิชั้นตั้งข้อจำกัด ตั้งเวลา ฯลฯ ไว้เพียบค่ะ โลกไซเบอร์น่ากลัวค่ะ

เป็นว่าอิชั้นมีโน๊ตบุตเพิ่มมา อาทิตย์แรกๆ ก็เพลินเลยค่ะ นอนดูละครขโชว์จากเมืองไทยได้บนเตียง ใส่หูฟัง อิพ่อบ้านจะดูหนัง ดูโทรทัศน์อะไรโหวกเหวก ก็ดูไป ไม่เกี่ยวกัน สุขเป็นไหนๆ มีสุดที่รักอ้วนๆ นั่งอยู่ข้างๆ ไอ้แล่บท๊อปอันเก่า 17.3” หนักมากค่ะ ถ้าวางบนตักนานๆ เมื่อยมากกกก… พอเข้าอาทิตย์ที่ 3 คืนหนึ่งคืนนั้น อิชั้นนอนดูรายการทีวีไทยผ่านยูทู้ปอยู่ดีๆ ณ ทันใด..เครื่องก็ปิดตัวลง ไม่ชาร์จ ไม่หือ ไม่อือ ดับสนิท หน้ามืดไป มืดจริงๆ นะ ทำไง๊ ทำไง จะทำยังไงดีวะ โมโหจัง เครื่องใหม่เอี่ยมเลย ใหม่เอี่ยมแบบอิชั้นเอามาแกะกล่องเองเลยนะคะ คนที่เค้าขายต่อให้ยังไม่ได้แตะต้องแกะกล่องแต่อย่างใด

พอวันต่อมาอิชั้นก็โทรไปที่ฮิวเล็ตต์ แพ๊คการ์ด (เครื่องยังอยู่ใน warrantee 1 ปี จึงจะใข้บริการนี้ได้ฟรีค่ะ) อิชั้นก็คุยกับเทคนิเชี่ยนเค้า แล้วก็เปลี่ยนไปเป็นแชทกันเพราะต้องมีการส่งลิ้งค์ต่างๆ ไปมา อิชั้นก็ทำตามสารพัดที่เค้าบอก ใช้เวลาหมดไป เกือบ 1 ชั่วโมง อิตาเทคนิเชี่ยนนั่นคงถอดใจ ไอ้เครื่องบ้าก็ไม่ยอมฟื้นคืนชีพ เลยบอกว่าคงต้องให้ส่งเครื่องเข้าไปที่ HP เพื่อ repair ค่ะ

HPService

อีก 2  วันถัดมาอิชั้นก็ได้กล่องจาก FedEx เป็นกล่องเปล่าๆ พร้อมโฟมสำหรับหีบห่อ เลเบ้ว และ instruction สำหรับส่งกลับไปที่ HP อิชั้นก็รีบหีบห่อตามที่เค้าบอก แล้วก็บึ่งเอาไปให้เค้าที่ร้านรับส่งของ FedEx ทั้งหมดเป็นบริการฟรีค่ะ พออีก 2 วันก็ได้อีเมล์จาก HP ว่าเค้าได้รับเครื่องแล้ว พออีก 5 วันก็ได้รับเครื่องคืนมาในสภาพเนี๊ยบ ห่อมาแบบของใหม่แกะกล่องเลยค่ะ สรุปว่า ใช้เวลา 7 วัน เครื่องก็กลับมาใช้งานได้ดีเหมือนเดิม แต่ก็มีปัญหาคาใจว่า ฤๅกรูจะได้ของมีตำหนิ defected item อีกแล้ว เกิดมาเพื่อของไม่สมประกอบตลอดเลยว่ะ แต่ผัวสมประกอบน๊าาา… ติงต๊องนิดหน่อย 555555

ไอ้โน๊ตบุ๊คเจ้าปัญหาก็ทำตัวดีรับใช้หม่ามี๊ด้วยดีมา ..จน….คืนหนึ่งเมื่อต้นเดือนกุมภาฯ ค่ะ อิชั้นนอนดูหนัง ดูละครอยู่ดีๆ ไอ้ internet connection ก็ disconnect ไปเฉยๆ แบบไม่บอกไม่กล่าว ฉลาดล้ำทำได้หมดอย่างอิชั้น ก็แจ้นออกไปดู router ทำการ ตรวจเช็ค เปิดคอมพ์ตัวอื่นๆ ก็ปรากฎว่าไอ้พวกนั้นก็คอนเน๊คตามปกติ อย่างทันใจ-ไร้ปัญหา  อิชั้นก็จัดการ reset เร้าท์เต้อร์ เสียบเข้าถอดออกสารพัดสายทั้งหมด ทั้งต้นทาง-ปลายทาง  ทำไปโม้ด….. ก็ไม่เวิ๊ก เลยสรุปได้เองว่าปัญหาต้องมาจากไอ้โน๊ตบุ๊คแน่ๆ เมื่อไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว ก็เลยพยายามข่มตาให้หลับ ตื่นแล้วค่อยว่ากันใหม่

พอตื่นมาจัดการเรื่องลูกเต้าเรียบร้อย อิชั้นก็ตั้งสถานีเลยค่ะ เปิดเครื่องเดสก์ท๊อป เปิดเครื่องไอ้โน๊ตบุ๊คบ้านี่ ติดต่อ customer services ของ HP ออนไลน์ แชทกับ technician คนแรก เชื่อหรือไม่เชื่อ เราแชทกัน 4 ชั่วโมงเศษ คือ เค้าบอกให้ทำโน่นนี่ ตรงโน้นตรงนี้ อิชั้นก็ทำตามเค้าไปเรื่อยๆ แล้วก็คอยบอกผลเค้าไปว่าเป็นไง บางอย่างก็ใช้เวลา รีบู้ทแล้ว รีบู้ทอีก restore หลายครั้ง ทำสารพัด ไปจนถึง ล้างเครื่องแบบกลวงโบ๋เหมือนตอนแกะกล่องเลยทีเดียว เครื่องก็ยังไม่ยอม connect กับ wireless เซ็งมากกกก… จากนั้นอิชั้นก็เปิดฉากแชทเซสชั่นที่ 2 กับเทคนิเชี่ยนคนใหม่ คราวนี้ก็ให้ทำโน่นทำนี่ไปเรื่อยๆ อีก เดี๋ยวๆ อิตานั่นก็ขอเวลากลับไปอ่านแชทของเซสชั่นแรกก่อน ว่าทำอะไรไปบ้างแล้ว สุดท้ายคงจนมุม บอกเดี๋ยวนะ ขอเอาปัญหาไปถามซูเป้อร์ไวเซ่อร์ เดี๋ยวกลับมาคุยกันใหม่ พออิชั้นล๊อคอินเข้าไปแชทใหม่ ก็เจอคนใหม่อีก ก็ทำไปทุกอย่างที่เค้าบอก ถึงขนาดเปิดหลังเครื่อง ลากไส้ฮาร์ดไดร้ฟ์ออกมาหมด จิกหัว wireless card ออกมาด้วย ถอดออกใส่กลับไปใหม่ ถอดใหม่ ใส่ใหม่ สรุปวันนั้นอิชั้นแชทรวมทั้งหมด 4 sessions กับ 3 technicians ใช้เวลาไป 7 ชั่วโมงกว่า เหนื่อยค่ะ ไอ้คนสุดท้ายคงหมดปัญญา เลยบอกว่าจะของเอาเครื่องเข้าไปซ่อม

ก็แบบเดิมอีก กล่องมา แพ๊คเสร็จ ส่งกลับไป อีกไม่กี่ัวันได้เครื่องคืนกลับมา หัวจิตหัวใจลิงโลดยิ่งนัก เมื่อตอนแกะกล่อง จบๆ ซะที พอเปิดเครื่อง เหมือนเดิมค่ะ ถึงเค้าได้เปลี่ยน wireless card ให้ใหม่ก็เหอะ มันก็ไม่ยอม “ฮุก” อินเตอร์เน็ตค่ะ จำได้ว่าวันที่ได้เครื่องคืนมาเป็นวันศุกร์ พอเครื่องไม่เวิ๊ก เลย เบื่อๆ ไม่แชท ไม่โทร ไม่คุย ทำถาม ไม่พยายามทำอะไรอีกแล้ว เอาเครื่องไปยัดไว้ใต้เตียง เก็บความเซ็งๆ ไว้ในใจคนเดียว มันเหมือนกลับเมฆดำแขวนคลุมหัวอยู่เลยค่ะ อิชั้นเป็นคนแบบนั้นจริงๆ ไม่สามารถเลิกคิด ไม่ปล่อยวาง ถึงไม่พูดหรือเล่าให้ใครฟังก็เถอะ จริงๆ มันมีอีกหลายๆ เรื่องรกใจอยู่ในขณะเดียวกันให้ต้องคิดด้วย ช่วงนั้นเซ็งเป็ด เซ็งห่าน อย่าบอกใครเชียว

พอหลายวันต่อมา พ่อบ้านก็ถามว่าเครื่องได้กลับมาแล้วไม่เห็นเอาออกมาใช้ ก็เลยตอบว่า มันยังเฮงซวยเหมือนเดิม ทำไมถึงต้องเป็น goo ตานี้อิพ่อบ้านก็คิดแบบไอ้กันค่ะ เครื่องอายุยังไม่ถึง 90 วัน เอาไปคืนเลย อิชั้นก็เลยฮึดค่ะ ขอลองอีกตั้ง เพราะตอนนั้นเหมือนกับว่าอีกไม่กี่วันก็จะครบ 90 วันค่ะ แต่คราวนี้ไม่ขอคุยกับ HP แล้ว แต่จะขอคุยกัย AT&T ซึ่งเป็น Internet Provider ที่เราใช้บริการอยู่ คราวนี้อิชั้นคุยกับเจ้าหน้าที่ของเอทีแอนด์ทีทางโทรศัพท์ค่ะ เริ่มต้้นอิชั้นก็บอกกับเค้าเลยนะคะ นี่ๆๆๆๆ ฟังชั้นก่อนนะ เรื่องมันยาว ปัญหาคือนี่ๆๆๆๆ ชั้นติดต่อกับ HP ทำนี่ๆๆๆ ส่งเครื่องไป ส่งเครื่องมา บลาๆ ร่ายยาวไป จากนั้นก็เริ่มกันเลยค่ะ ซ่อมนู้น ทำนี่ เซ็ทนั่น แก้โน่น ทำกันสารพัด ไม่เวิ๊ก อิชั้นก็ถอนหายใจ เฮือกๆ อิตานั่นก็เสียงตามสาย ใจเย็นๆ แมม เราต้องช่วยกัน เดี๋ยวก็ได้ ไปๆ มาๆ อิตานั่นคงรู้สึกหมดหนทาง ขอเบรคแป๊บนึงไปถามเพื่อนก่อน พอกลับมา ก็ยังทำไม่ได้อีก ก็เลยบอกไปว่า หยุดก็ได้นะ ชั้นจะเอาเครื่องไปคืน อิตานั่นบอก โน่ๆๆๆๆ ต้องทำได้สิ ลองล้างบางทุกสิ่งทุกอย่าง ขุดลึกลงไปให้ถึงขั้วของทุก sub-menu ดิชั้นก็ เอ้า เอาไงเอากัน เอากะมันสิ 555 ทำไป ทำมา คลิกโน่น คลิกนี่ อยู่เครื่องมันฮุกอินเตอเน็ตเฉยเลย ดีใจ ดีใจ อิชั้น วี๊ด…บึ้ม… ขอบคุณอิตานั่นยกใหญ่ บอกไปว่า John….you’re the man! He was laughing like crezy…55555 คุยกัน 2 ชั่วโมงกว่า กลายเป็นว่า ไอ้เครื่องจริงๆ ไม่ได้มีปัญหาอะไร ส่งไป-ส่งมา เปลี่ยนเครื่องในบางส่วน โดยหล่าวประโยชน์ แต่คำถามของอิชั้นคือ มันเกิดขึ้นได้อย่างไร นอนดูละครอยู่เฉยๆ ไม่ได้หยิบจับเม้าส์ หรือแตะคีบอร์ด อะไรไป trigger ให้ connection โปรแกรมเปลี่ยนไป สุดท้ายเรื่องเซ็งๆ ก็จบไปเรื่องนึง ค่ะ เรื่องนึงเท่านั้นค่ะ ไม่ใช่ทั้งหมด

เพิ่งครึ่งทาง อย่าเพิ่งเบื่ออ่านกันซะก่อนนะคะ เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้มันหนักหนาเอาการอยู่ค่ะ การที่แอบทำอะไรลับหลังพ่อบ้าน..มันก็ทุกข์ใจระดับนึงแล้วนะคะ ถึงจะไม่ใช่เรื่องใหญ่โตร้อยล้านก็เถอะ เพราะเราไม่มีความลับต้องปกปิดกันค่ะ คืออิชั้นเกลียดไอ้โทรศัพท์ที่ใช้อยู่ แต่ต้องรออีกนานกว่าจะมีสิทธิ์อัพเกรด ซึ่งจะได้ส่วนลดในการซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ในราคาลดเป็นพิเศษ พอไม่ชอบก็ดิ้นรนค่ะ 5-6 เดือนก่อน ก็ไปซื้อโทรศัพท์ใช้แล้วราคาถูก $50 กว่าๆ มาใช้ ซื้อจาก amazon.com คือก่อนซื้อก็อ่านรายละเอียดเงื่อนไขแล้ว ดูดี ไม่เอาเปรียบกัน ราคาพอทนได้ ที่ทำคัญ คือ ทราบดีว่าโทรศัพท์ที่กำลังจะตัดสินใจซื้อเป็น used phone เค้าไม่ได้โกหกอะไร ก็ซื้อมา พอได้รับเครื่อง โดยรวมๆ ก็โอเค ใช้กับ SIM ได้ โทรออก รับสายเข้า ได้ดีปกติ แต่ฝาหลังของเครื่องมันหลวมค่ะ เดี๋ยวหลุด เดี๋ยวร่วง เอาเทปแปะไว้ ก็ดูน่าเกลียดน่าชัง ติดต่อไปว่าจะขอคืนเครื่อง เค้าก็โอเค เพราะเค้ารับประกัน 1 ปี แต่ก็ลังเลใจค่ะ เพราะค่าส่งคืนก็ร่วมๆ  $10 พ่อบ้านก็เลยบอกว่า ไม่ต้องส่งคืนหรอก มันพอใช้ได้ก็เก็บไว้เป็นเครื่องสำรอง รออีกหน่อยพอได้อัพเกรดก็ค่อยซื้อเครื่องใหม่

มันไม่ใช่อย่างนั้นสิคะ อิชั้นก็ได้แอบไปสั่งซื้อโทรศัพท์มือถือออนไลน์ เพราะฉลาดล้ำไงคะ คิดว่า “ต้องดี” แถมไม่ต้องจ่ายค่า data plan $39.99 ต่อเดือนให้กับ provider ที่เราใช้บริการอยู่ เลยสั่งจากไอ้เว๊บนี้ค่ะ Cell2Get.com (This company is a scam….. Do not buy any thing from this company! Be worn  buy from somewhere else!) สั่งไปโดยไม่บอกไม่กล่าวให้พ่อบ้านรู้ อิชั้นสั่งซื้อโทรศัพท์เมื่อวันที่ 20 มกราคมค่ะ พอผ่านไปซัก 2 สัปดาห์ ก็ชักเอะใจ ทำไมมันนานนักวะ ก็โทรไปถาม มันบอกว่า ไม่ต้องวอรี่..แมม.. เป็นเพราะต้องสั่งเครื่องมาให้จากต่างประเทศเลย แต่ได้ส่งไปแล้วนะ รอรับได้เลย วันจันทร์หน้าก็คงได้รับแล้ว อิชั้นก็ อ๋อ.. เหรอ.. เออ.. โล่งอก พอวันจันทร์ที่มันบอกว่าของจะมา ก็ไม่มีอะไรมาถึง แต่ก็ใจเย็นรอไปจนวันศุกร์ ก็โทรถามอีก ได้คำตอบเหมือนเดิม แต่คราวนี้อิชั้นชักโมโห ก็หยอดไป ไม่โกหกกันนะ วันจันทร์ก็ไม่ได้รับอะไรอีก รู้สึกฉุนกึกฉุนกัก ปะทุ คุ อยู่ในหัวอก โดนต้มแน่ goo ตั้ง $185 โกรธ โมโห เอาไงดีวะ จนวันที่ 17 กุมภา ก็โทรไปถามมัน ว่านี่แก ชั้นยังไม่ได้รับของ ชั้นขอคืนเงิน ยกเลิกหมดทุกอย่าง มันก็บอกมาว่า แคนเซิ่ลได้ไง ของไปแล้ว ก็เล๊งกับมันไปอีกนิดหน่อย แบบอึกๆ อักๆ เพราะนึกไม่ออกว่าจะเอาไงดีฟระ แล้วก็วางหูไป พอนั่งโมโหไม่รู้จะทำอะไรดีได้ซักพัก เหลือเชื่อ…หรือไม่เชื่อ มีของมาส่งค่ะ อูย….. ดีใจค่ะ แต่พอเปิดกล่องออกมา โกรธแบบควันออกหู ไฟออกจมูกเลยค่ะ

BlackberryFlip

ดูรูปกันเลยค่ะ โทรศัพท์ที่ส่งมาเน่ามากๆ ไม่มีเอกสารใดๆ มาด้วย ไม่ว่า invoice หรือ packing list ก็พอชี้ชัดได้เลยว่ามัน unprofessional กล่องและคู่มือดูปลอมๆ แล้วคู่มือก็เป็นของแบล๊คเบอรี่รุ่นอื่น ที่ไม่ใช่ flip คีบอร์ดหมายเลข 6 ไม่มี แต่แถมเบอร์ 9 มาตั้ง 2 อัน รอยขูดขีดเต็มไปหมด พอเอา “ซิม” ใส่… ก็ใช้ไม่ได้ เลยส่งอีเมล์ไปบอกมันว่า เครื่องมันที่ส่งมาน่ะ unacceptable condition & it’s not a new phone as advertised จะส่งคืนแล้วขอคืนเงินทั้งหมด จากนั้นก็โทรหามันอีกหลายครั้ง ก็ไม่มีคนรับสาย อิชั้นก็นั่งเป็นบ้าอยู่คนเดียว ก็เลยไปเจอเว๊บนี้เข้า http://www.resellerratings.com/store/Cell2Get แล้วก็ไปเขียนคอมเม้นท์ไว้ ไม่มีคำหยาบคายใดๆ เพียงเล่าไปตามจริง แล้วก็บอกว่าบริษัทนี้เป็น scam อย่าไปซื้ออะไรจากมัน คุณๆ คะ ลองไปอ่านดูเถอะค่ะ หลายๆ คนเจอปัญหาเดียวกัน หรือไม่ก็ใกล้เคียงกับปัญหาของอิชั้น ไอ้ที่ให้คะแนนตั้ง 5 ดาวทั้งหลาย มันคงเข้าไปเขียนเองทั้งสิ้น  เพื่อจะได้หักล้างกับที่เค้าเขียนด่า แสดงว่าวันๆ มันไม่ทำอะไร ไปเว๊บโน้นเว๊บนี้-นั่งเขียนชมตัวเอง เหยื่อจะได้ติดกับดัก (อย่างอิชั้น) แหงะ ถ้าอิชั้นไอ้อ่านรีวิวนี้ก่อน ก็คงไม่ซื้ออะไรจากมันหรอกค่ะ มาเจอเข้าเมื่อสายไปแล้ว แหวะ

พอได้ดีก๊อปปี้และเซฟ comment อันแรก (ต้นฉบับ) ไว้ด้วย ลองอ่านดูค่ะ มิได้ตัดต่อ ดัดแปลงแก้ไขข้อความแต่อย่างไร อย่าไปใส่ใจแกรมม่า แกรมมี่ หรือความถูกต้องใดๆ ค่ะ เพราะตอนเขียนนั้น…อุดมไปด้วย โทสะ โมหะ แบบเต็มๆ เลยค่ะ และโปรดสังเกตุวันเวลาที่อิชั้นเขียนครั้งแรก กับวันเวลาที่แก้ไขด้วยค่ะ

BlackberryFlip-01

จากนั้นอิชั้นก็ไปไฟล์ complaint ที่ BBB - The Better Business Bureau of the United States ค่ะ ให้รายละเอียดไปหมดว่าเป็นอะไร ค่าเสียหายเท่าไหร่ ผลที่อิชั้นต้องการคือ refund in full ค่ะ ต่อจากนั้นก็โทรไปแจ้ง ขอไฟล์ dispute กับบริษัทบัตรเครดิตที่อิชั้นใช้จ่ายเป็นค่าไอ้โทรศัพท์เฮงซวยนี่ พอเสร็จธุระปุ๊บ สายโทรศัพท์ว่างลง ไอ้เชี่ยนั่นโทรมาเลยค่ะ กระโชกโฮกฮาก สำรากออกมา ว่าทำไมถึงไปโพสต์ negative comment  (วันๆ มันคงนั่งเช็คเรทติ้งหน้าจอตลอดเวลา เพิ่งจะโพสต์เสร็จ ได้อ่านแระ เลว-เร็วจัง 555) ถ้าอยากได้เงินคืนก็ให้ไปลบอออกซะนะ อิชั้นก็บอกไปว่า สิ่งที่อิชั้นเขียนไป เป็นความจริง มันก็พูดซ้ำซาก แบบ ถ้าไม่ไปลบออก I have not thing to do with you and forget about your refund! อิชั้นก็แกล้งโง่ บ้า เซ่อ เพราะเห็นแก่เงินที่เสียไป-อยากได้คืนค่ะ แต่ก็คิดในใจว่า goo ได้เงินคืนเมื่อไหร่ goo จะเขียนให้แรงเชียวมึง แล้วก็บอกมันไปว่า เออ OK, I will delete my comment so, I will get my money back, right?  มันก็บอกโอเคเลย แต่มันจะคืนเงินให้ก็ต่อเมื่ออิชั้นส่งโทรศัพท์กลับคืนไปให้มันก่อน เออวะ ส่งอยู่แล้วแหละ จะเก็บไว้ทำเกี๊ยะอะไร

พอดีเมื่อสุดสัปดาห์ก่อนเป็น long weekend ก็เลยต้องรอจนวันอังคาร (22) ถึงได้ไปส่งโทรศัพท์คืนให้มัน พอวันที่ 25 มันอีเมล์มาบอกว่าได้รับโทรศัพท์แล้ว ให้โทรหามันด้วย พอดีติดวีคเอนด์อีก ก็เลยโทรไปหามันเมื่อวันจันทร์ (28) พอโทรปุ๊บ…งานเข้าอีก ปะทะคารมกันหนักเลยค่ะ อิชั้นพยายามอดทนอดกลั้นไม่ใช้คำผรุสวาท เพราะอัดเทปไว้ค่ะ มันก็คงรู้ตัว ระวังคำไม่ curse ออกมาเหมือนกัน แต่ขอบอกว่า แร๊งงงงง……

ต้องบอกก่อนว่า เมื่อวันที่ 17 อิชั้นได้พยายามที่จะดีลีทข้อความที่เม้นต์ไว้ อย่างว่าง่าย แต่โปรเกรมของเว๊บนั่น ไม่ยอมให้ดีลีทค่ะ และ ไม่ยอมให้เว้นว่างไว้ ต้องเขียนอะไรลงไปอย่างน้อย 25 ตัวอักษร อิชั้นก็เลยแก้ไขทิ้งไว้แบบนี้ค่ะ (ดูรูปค่ะ ลองอ่านคอมเม้นต์อื่นๆ ก็พอจะเดาได้ค่ะ ว่ามันเขียนเอง ฮี่ม..) และยังคงเป็นดาวเดียวเหมือนเดิม เพราะดาวคะแนนไม่สามารถให้เป็น 0 อย่างน้อยหรือแย่ที่สุดต้องให้คะแนน 1 ดาวค่ะ ไม่งั้นรึ ฮึ มันไม่มีทางได้จากอิชั้นซักดาวหรอกค่ะ

ScreenShot120 copy

กลับมาที่บทสนทนาเถื่อนกับไอ้สถุลนั่นค่ะ พอรับสายมันก็เปิดฉากเลยค่ะ ว่า มันได้รับโทรศัพท์คืนแล้ว แต่มันไม่คืนเงินนะ เพราะอิชั้นไม่ยอมไปเขียนความจริงที่เว๊บนั่น อิชั้นก็งง ความจริงอะไร บอกให้goo ดีลีท goo ก็ลบที่เขียนไว้ออกหมดแล้ว มันบอกทำไมต้องทิ้งดาวเป็นแถวยาวเหยียดแบบนั้น ก็บอกว่าเค้าไม่ให้ทิ้งไว้ว่างๆ และไม่ยอมให้ดีลีทด้วย goo ก็พยายามทำดีที่สุดแล้ว เลยถามมันไปว่า I don’t understand…why those stars bother you so much?

มันก็บอก that kind of comment hurts my business. why don’t you tell the truth?

อิชั้นก็บอก  If I write the truth, it will hurt your business for real. 

มันยังหน้าด้านบอกว่าถ้าอิชั้นเขียนความจริงนะ ไม่ hurt หรอก แต่อิชั้น โกหก

โกหกไรวะ ภาษาพ่อมึงสิ *************************** อ่านได้ด้วยเหรอวะ แล้วแปลว่าอะไร ชักอยากรู้

เลยตอบไปว่า ถ้า goo เขียนความจริง ก็ขอเขียนสั้นๆ แค่ว่า This is a scam and what I got is Bad Service! มันโมโหใหญ่ เสือกสวนมาอีก ว่านั่นก็โกหกอีก ชิชะ มาว่า goo ตอแหล มันก็พูกซ้ำแล้วซ้ำอีก ว่าให้ tell the truth..  tell the truth.. วกไปวนมา เลยถามมันว่า ความจริงของมึงคืออะไร

เชื่อมั๊ยคะ มันบอกว่า ก็เขียนไปสิว่า ordered the phone, got the phone, it doesn’t work with my SIM, then I returned the phone and I got my refund. โห… หน้าด้าน กล้ามาตอแหลพูดแบบนี้กับอิชั้นอีก

เลยบอกมันไปว่า That’s a big lie! I didn’t get my refund yet. How dare you say such a thing like that?

มันยังมาบอกอีกว่า ถ้าไม่ไปเขียนตามที่มันบอกแทนไอ้ “แถวดาว-ดาวแถว” นั่น มันไม่คืนเงินให้หรอก ก็เลยสวนมันไปว่า มึงส่งรีฟันด์คืน goo ก่อนสิ เดี๋ยวจะไปเขียนโกหกให้ เชื่อมั๊ยค่ะ มันก็พูดเหมือนเดิม เขียนสิ คืนให้ อิชั้นก็สวนไปแบบเดิม คืนเงิน goo สิ goo เขียนให้ เหมือนปัญญาอ่อน ยอกย้อนซ้ำไปซ้ำมาเป็นสิบรอบ จนมันบอกว่า เดี๋ยวขอวางสายก่อน ซัก 5 นาทีจะโทรกลับมาใหม่

พอวางสายจากมัน อิชั้นก็โทรไปที่บริษัทบัตรเครดิต บอกไปว่า frustated มาก ไอ้นรกนั่น rude เกินรับ เค้าก็บอกว่าเค้าได้เครดิตคืนเงินให้อิชั้นตั้งแต่วันที่ 23 แล้ว ไม่ต้องไปพูดคุยอะไรกับมันอีก ทางเค้าจะจัดการกับมันเอง อิชั้นก็ขอบคุณเค้าไป พอวางสาย มันโทรมาแบบ ทุกๆ 30 วินาที อิชั้นไม่รับสาย พ่อบ้านก็ไม่ให้รับ ให้ answering machine รับ คืนนั้นมันโทรมา 18 ครั้ง วันรุ่งขึ้นมันก็โทรไม่หยุด เป็นระยะๆ ตลอดทั้งวัน พ่อบ้านบอกห้ามลบข้อความที่ฝากไว้ เพราะบันทึกเวลาที่มันโทรมาด้วยค่ะ การที่มันโทรแบบนี้แจ้งความได้ ถือว่าเป็นการ harassment สามารถแจ้งความดำเนินคดีข้ามรัฐได้ มันอยู่ Brooklyn, New York โน่นค่ะ

 BlackberryFlip-03-s

จริงๆ มีเว๊บไซต์ที่ช่วยเหลือคนที่ถูกโกงอยู่เหมือนกัน อย่างอันนี้ http://www.ripoffreport.com/Search/Body/cell2get.aspx ลองเข้าไปดูกันค่ะ มีคนไฟล์รีพอร์ตเรื่องไอ้บริษัทนรกนี้ไว้ ทำไม๊ ทำไม่ อิชั้น ไม่อ่านเจอเสียก่อน จะได้ไม่ต้องมานั่งแค้นอยู่แบบนี้ เดี๋ยวจะเข้าไปฟ้องซะหน่อย 5555 ให้หายแค้นนิ

ถึงแม้อิชั้นจะได้เงินคืนแล้ว แต่ก็ยังนอนไม่หลับ นั่งคิดนอนคิด ว่า เค้าจะจัดการกับมันยังไง ที่อิชั้นร้องเรียนไปที่ BBB ถึง 2 ครั้ง เค้าจะทำอะไรกับมันมั๊ย หรือ แค่รับแจ้งความไปงั้น ทางบัตรเครดิตจะได้เงินคืนจากมันหรือปล่าว มันไม่ใช่ความผิดของแบ๊งค์เลย อิชั้นโง่เอง ซื้อเอง เค้ามารับผิดชอบแทนมัน คิดๆๆๆๆๆ ไม่สามารถหยุดคิดได้ ยังคิดอีกว่า อิชั้นทำดีที่สุดหรือยัง และยังสามารถจะทำอะไรได้อีกมั๊ย เพื่อไม่ให้คนชั่วอย่างมันลอยนวล ไปหลอกไปต้มคนอื่นอีก สารพัดคำถามที่อยู่ในเมฆดำบนหัวของอิชั้น มันไม่หนีไปไหนเลยค่ะ เผลอไปถามพ่อบ้านเข้า โดนดุเลยค่ะ เค้าบอกเรื่องตรงนี้จบแล้ว ให้แบ๊งค์แฮนเดิ้ลส่วนของเค้า ถ้ามันคุกคาม เราก็ดำเนินการส่วนที่เราทำได้ หยุดคิดมากได้แล้ว ยูแฮนเดิ้ลส่วนของยูดีที่สุดแล้ว แล้วก็ทิ้งท้ายว่า เดี๋ยวซื้อโทรศัพท์ให้ใหม่ ไม่ต้องไปดิ้นรนหาเรื่องอะไรอีก รอหน่อยเท่านั้นเอง แล้วก็ กอด จุ๊บๆ ปลอบใจ

จริงๆ มันยังมีเรื่องเล็กเรื่องน้อยที่ไม่น่าเอามาคิดวิตกอะไร แต่ทำไม๊ ทำไม หยุด โรควิตกกังวลไม่ได้ อูย… ลืมไปรับยา อูย… อีก 3  วัน ต้องพาลูกไปทำสะอาดฟัน (ก็เริ่มนอนไม่หลับมาตลอดอาทิตย์แล้วค่ะ กลัวลืม) อูย… ต้องเอารถไปทำ smog check อูย.. ทำอะไรให้ลูกกินดี อูย.. ไม่มีตังค์ อูย..หนาว อูย.. ร้อน อูย.. อูย.. อูย.. นั่นก็ต้องทำ อูย.. นี่ก็ต้องไป อูยๆๆๆๆๆๆๆ ถ้าจะบ้าแล้วค่ะ HELP!

There are only two ways to live your life.

One is as though nothing is a miracle.

The other is as though everything is a miracle.

DontMess-01